ปณิชา และประวัติการเปลี่ยนชื่อที่ผ่านมา 1



ปณิชาเป็นใคร ?

ปณิชา ก็เหมือนท่าน ๆ ทั้งหลายที่เคยเกิดมามีชื่อที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจ ใส่ใจ บรรจง คัดสรรเลือกให้ มีชีวิตตามปกติ (ตอนนั้นคิดว่าปกติ) ชีวิตก็สุขสบายดีค่ะ เป็นลูกสาวคนโตของบ้าน เป็นลูกคนแรกที่ได้รับความรักอย่างเต็มที่ แม้จะเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อเป็นเซลล์ แม่เป็นแม่ค้า แต่ก็ส่งลูก ๆ เรียนหนังสือจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท (ยกเว้นปณิชา) ทุกคน

 

ในชีวิตก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เปลี่ยนชื่อตัวถึง 2 ครั้ง และในที่สุดได้มาเป็นผู้ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนด้วยรหัสตัวเลข วันนี้ฤกษ์งามยามขยัน จึงมาแนะนำประวัติตัวเองและประสบการณ์เปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ท่าน ๆ ได้รู้จักกันนะคะ  และเพื่อความเข้าใจในการอธิบายรหัสชีวิตของตัวเอง ไล่ลำดับดังนี้

 

1. รหัส 21 + 45 = 66 ใช้จนถึงอายุ 21 “ชีวิตที่พลิกผัน” ทำให้ต้องมีชื่อที่ 2
2. รหัส 31 + 45 = 76  31 “ทุกข์ซ้ำซาก” ทุกข์จริง ๆ ยิ่งกว่านิยาย
3. รหัส 14 + 45 = 59  รหัสสุดท้ายที่ชีวิตเริ่มมีสิ่งดี ๆ และเกิดสมดุล  จนถึงทุกวันนี้

อ่านความหมายโดยตามพื้นฐานของแต่ละตัวเลขโดยคลิ๊กที่ตัวเลขนะคะ

 

เมื่อเริ่มต้นกับชีวิตด้วยรหัส 21 + 45 =66

เมื่อรู้จักความหมายของตัวเลขมองย้อนกลับไป….เออ..มันจริงแหะ !!!

 

21 “ชีวิตที่พลิกผัน” จริง ๆ ค่ะ เป็นอารมณ์ศิลปิน ^ ^ ไม่เคยมีฝันเลยว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ค้นหาความชอบไปเรื่อย ๆ ตอนสมัยประถมเรียนที่ร.ร.แม่พระฟาติมา , โตขึ้นมาชั้นมัธยมต้นเรียนวิทย์-คณิตที่ร.ร.สายน้ำผึ้ง , จบมาแล้วไปเรียนวิชาเลขานุการภาคภาษาอังกฤษ เรียกชื่อร.ร.Convent of the Holy Infant Jesus หรือเรียกย่อ ๆ ว่า HOLY (จริง ๆ ได้เรียนต่อที่สายน้ำผึ้งแต่เลือกร.ร.เลขาฯ เพราะจบมาทำงานได้เงินเท่าคนจบปริญญาตรี) จบมาทำงานอยู่ 1 ปีแล้วก็มาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชานิเทศศิลป์ (เหตุผลแค่อยากเรียนเอามันส์ ไม่ชอบวิชาท่องหนังสือ ชอบใช้ผลงานวัดกัน)

 

เห็นไหมคะท่าน…ผลิกผันจริง ๆ เรียนมาอย่างมาต่ออีกอย่าง (แล้วสุดท้ายมาจบที่หน้าที่นี้ได้อย่างไร ?)

 

45 “เทพีแห่งโชค” ที่นามสกุล ต้องอธิบายอย่างนี้นะคะ นามสกุลแต่ละนามสกุลมียุคและอายุของการใช้งาน นามสกุลของครอบครัว เปลี่ยนมาจากแซ่ ยุคคุณพ่อเป็นยุคเริ่ม ยุคปณิชาเป็นยุคที่ 2 (ณ.ตอนนี้ยังไม่ขออธิบายถึงรหัส 45 ว่าทำไมไม่ต้องเปลี่ยน)

 

66 “แสงสีเสียง” ถ้าท่านตามไปอ่านจะดูแล้วทำไมความหมายมันเลวร้ายจัง แต่เนื่องจากเป็นช่วงนี้รหัสนี้ยังทำงานไม่เต็มที่ ความหมายของ 66 สำหรับปณิชาจึงแค่จิ๊บ ๆ แค่ดื้อ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ใช้เงินเก่งมาก ขี้เกียจ (แค่นี้ก็เยอะแล้ว ^ ^)

 

 และแล้วก็มาเจอกับรหัส 31 + 45 = 76

ตัวเลข 21 ส่งผลรุนแรง “อุบัติเหตุ , ขัดแย้ง , ความตาย” เหตุที่ไม่เล่าเรื่องตัวเองในเว็บไซด์ซักทีเพราะสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ เป็นความเชื่อและประสบการณ์ส่วนบุคคล ไม่อยากให้เชื่อแบบงมงายแต่มันเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนชื่อ

 

ตอนนั้นเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ จำได้ว่ากำลังขึ้นปี 2 อยู่มาวันหนึ่งก็ฝัน (แต่มันจำได้ชัดเจนแม้ตื่น) จำได้ว่าฝันเห็นองค์เทพหญิง 1 ท่านและหลวงพ่อของกรุงรัตนโกสินทร์ยุคต้นที่ทุกวันยังมีคนกราบไหว้บูชาท่านอยู่ แต่ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กและดื้อด้วย เรื่องอะไรเหล่านี้จึงเป็นเรื่องงมงายในความคิดของตัวเอง ไปปรึกษาหลาย ๆ คนเขาก็มักแนะนำให้เลิกทานเนื้อเข้าวัดปฏิบัติธรรม แต่อิฉันก็อาร์ทตัวแม่ค่ะ ท้าเลย (เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง) ว่าไม่เชื่อ … จะทำไม ?…ตกดึกก็เริ่มมีอาการไม่สบาย เริ่มเห็นโลกหมุนได้ (เหมือนคนอัพยาเลย ^^) แล้วก็หลับไป 3 วัน…ไปตื่นอีกทีโรงพยาบาลรามาธิบดี ตื่นมากลายเป็นคนกล้ามเนื้อไม่ทำงาน ปากเบี้ยว ลิ้นไก่แข็ง พูดไม่รู้เรื่อง แขนขาไม่มีแรง สมองทำงานไม่ปกติ (แต่ไม่ได้บ้านะคะ) นอนเป็นผักอยู่เกือบ 2 อาทิตย์และเป็น case study ให้กับนักเรียนแพทย์ วัน ๆ โดนเจาะน้ำไขสันหลัง เข้าเครื่องแสกนสมอง มีค้อนมาทุบ ๆ ตามเข่า มีนักเรียนแพทย์มาถามอาการทุก 4-5 ชั่วโมง เพื่อหาสาเหตุของโรค แต่คุณหมอสรุปว่าหาสาเหตุไม่เจอค่ะ

 

ในทางการแพทย์ คุณหมอใจดี อธิบายให้ฟังอาการที่เป็นนี้ เรียกว่ามีอาการข้างเคียงกับโรคมัลติเพิลสเคลอโรซิส (Multiple sclerosis) หรืออาจเรียกสั้นๆ ว่าโรคเอ็มอส (MS) ลองค้นข้อมูลได้จาก google นะคะ ย้อนไปเกือบ 20 ปีที่แล้วการรักษาโรคนี้ได้แค่เพียงทานยาและลุ้นว่าจะหาย หรือ ไม่หาย … ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตของชีวิตเลยค่ะ คุณหมอบอกไม่รู้จะหายหรือเปล่า แต่การหายเกิดขึ้นหลายทาง…ทางหนึ่งญาติ ๆ ไปบนบ้าง ขอขมาบ้าง …ทางหนึ่งหายด้วยตัวเอง นึกในใจขอขมาต่อสิ่งที่เราประมาท พลาดพลั้ง ล่วงเกิน และขอมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อแม่และผู้อื่น กลัวไปหมดค่ะ กลัวไม่หาย กลัวพิการ กลัวเรียนไม่ทันเพื่อน ต้องเริ่มเคลื่อนย้ายตัวเองเหมือนคนไม่มีขา หัดเดินใหม่ จนอาการก็เริ่มดีขึ้นสุดท้ายได้กลับไปเรียนเหมือนเดิม………และญาติ ๆ ก็พาไปหาพระหมอดู ต้องเปลี่ยนชื่อแก้เคล็ด

 

ทุก ๆ วันปณิชาต้องอธิบายกับความเชื่อตามเขาเล่าว่าฯ กับเรื่องอักษรกาลกิณี บ้างท่านก็เชื่อ บ้างท่านก็ยังยึดกับข้อมูลที่ท่านเชื่อ … อย่าเลยค่ะ อิฉันโดนมาแล้ว และเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งกับการกล่าวโทษตัวอักษรที่พ่อขุนรามคำแหง พระมหากษัตริย์ของไทยเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้น (อ่านบทความโดยคลิ๊กได้ที่นี่ค่ะ )

 

31 และ 76 รหัสนี้ได้มาพร้อมกับชื่อใหม่ ด้วยความไม่รู้ ไปยึดหลักอักษรกาลกิณี ผูดดวง ตั้งลักขณา ทุกอย่างครบตามตำรา เป๊ะ! สุดท้ายรหัส 31 “ทุกข์ซ้ำซาก” ก็มาเยือนชีวิต ชีวิตหลังใช้ชื่อนี้ แย่ แย่ แย่ และก็แย่ค่ะ การงานที่ทำไม่ค่อยเท่าไหร่ เงินก็มีให้ใช้แบบฟุ่มเฟือย ติดหรู ติดแบรนด์เป็นไปตามวัย แต่ความรักมักมีปัญหารัก 3 เส้า รหัส 31,76 มักจะเกี่ยวข้องกับยามราตรี อิฉันไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นช่วงเรียนเลย เป็นเด็กดีตลอด พอเริ่มทำงานเก็บเงินได้เองก็เริ่ม “กลางวันไปวัด กลางคืนไปผับ” มักมีเพื่อนที่เป็นเพศที่ 3 มากกว่าเพศเดียวกัน ถูกหลอก ถูกโกง ครบสูตรค่ะ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักตัวเลข 31,76 ก็ใช้มันไป 13 ปี ตัวเลขนี้มักจะไปผูกพันธ์กับหมอดู ทรงเจ้า เข้าผี ไปไหนก็มักจะโดนทักให้รับองค์ฯ บลา บลา บลา มีเพื่อนเป็นแก๊งค์ตระเวนดูหมอ นึกย้อนแล้วขำตัวเอง ไร้สาระจริง ๆ เลยความเชื่อมั่นในตัวเองหายไป ไปเชื่อมั่นกับสิ่งที่คนอื่นทำนายทายทัก และช่วงอายุ 31 ก็เคยอยากรู้วิชา หมอดูไพ่ป๊อก (ศาตร์ของตัวเลขอีกแล้ว) เคยลองดูให้หลาย ๆ คนเขาก็ว่าแม่น แต่อิฉัน “มั่ว” มันดันตรง และพับสำรับไปเลย กลัวค่ะกลัวกับคำพูดของตัวเอง กลัวคนดูจิตตก กลัวตัวเองมั่ว

 

จนมาวันหนึ่ง หมอดูท่านหนึ่งที่เคารพและทำนายอะไร ๆ หลาย ๆ อย่างแล้วเกิดขึ้นจริง ถามว่า “เคยเปลี่ยนชื่อมาหรือเปล่า ?” เอาละซิ..ทำไงดี “เคยค่ะ” ตอบไปแบบเบา ๆ “อืมม…ถ้าเปลี่ยนอีกทีชีวิตจะดีขึ้นแบบพลิกชีวิต”…… อีกแล้วเหรอ !!! ชีวิตฉันต้องยุ่งยากเปลี่ยนอีกแล้วเหรอ !!!

 

รู้สึกว่าพิมพ์ไปพิมพ์มาเริ่มยาว ขอยกยอดไปบทความหน้านะคะ “เมื่อชีวิตรหัสชีวิตเริ่มสมดุล”